การเดินและวิ่งบนลู่วิ่ง การแกว่งแขนนั้นมีประโยชน์มากกว่า
สารบัญ
การเดินและวิ่งบนลู่วิ่ง การแกว่งแขนนั้นมีประโยชน์มากกว่า
การเดิน-วิ่งบนลู่วิ่งหรือลู่วิ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเผาผลาญไขมันเช่นกัน เราจึงควรรู้วิธี มาเดินและวิ่งบนสายพานที่ถูกต้องกันเถอะ
หลายครั้งที่ฉันเห็นคนเดินและวิ่งบนลู่วิ่ง โดยเฉพาะคนที่เดินบนทางลาดชันมาก ๆ ที่ต้องการเพิ่มความพยายามในการเดิน แต่กลับไปคว้าที่จับไว้ด้วย จริงๆ แล้วการเดินและจับมือนั้นมีประโยชน์น้อยกว่าการเดินอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการแกว่งแขนอย่างเป็นธรรมชาติ มาดูวิธีการเดินและวิ่งบนสายพานที่ถูกต้องกัน
เริ่มช้า
การเดินหรือวิ่งบนลู่วิ่งไม่ควรตามดาราที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ก้าวขึ้น และวิ่งอย่างรวดเร็ว นั่นมันโลกมายา นี่มันโลกสมมติหรือการแสดง? ไม่ใช่ชีวิตจริง วิธีที่ดีที่สุดคือการยืด (ยืด) ก่อน เริ่มด้วยการเดินช้าๆ เช่น 2 กม./ชม. แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วช้าๆ เป็นต้น วอร์มอัพ (วอร์มอัพ) แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วช้าๆ
ปล่อยมือเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
การกำมือไว้ข้างลำตัวตลอดเวลาจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกเกร็ง กล้ามเนื้อหลังยืดมากเกินไป ข้อต่อไหล่และตะโพกอาจบิดเบี้ยวมากเกินไป กล้ามเนื้อเหล่านี้อาจทนต่อการหดตัว หรือยืดต่อเนื่องเป็นเวลานานไม่ได้ เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ อักเสบ ดีหรือไม่ดี วันรุ่งขึ้นฉันไม่สามารถเดินหรือวิ่งได้ ไม่ออกกำลังกาย
ปล่อยมือ
การเดินหรือวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าโดยไม่จับราวด้านข้างสามารถเพิ่มการเผาผลาญได้ถึง 20% ทำให้หัวใจและระบบหัวใจและหลอดเลือดของคุณดีขึ้น ควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ เมื่อเราเดินและออกกำลังกายที่อื่น แม้จะไม่ใช้เข็มขัดไฟฟ้า แขนก็ควรแกว่งเช่นกัน เพื่อให้ออกแรงมากขึ้นอีกด้วย
ปล่อยมือเพื่อป้องกันแรงดันที่เพิ่มขึ้น
โดยจับราวด้านข้างตลอดเวลาทำให้กล้ามเนื้อแขน และกล้ามเนื้อหน้าอกหดตัวเป็นเวลานาน การหดตัวเป็นเวลานานทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง อัมพาต – อัมพาต เป็นต้น ทางที่ดีที่สุดคือปล่อยวางเวลาเดินหรือวิ่ง หากต้องการดูข้อมูล เช่น ชีพจร ฯลฯ ให้ปรับลู่วิ่งในแนวนอน ไม่เอียงขึ้นเหมือนขึ้นสูง จับราวจับด้านข้างชั่วคราว เสร็จแล้วก็ปล่อย อย่าถือไว้นานเกินไป
เลิกช้าๆ
เวลาเราเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย… หลอดเลือดในกล้ามเนื้อจะขยายตัว เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อมากขึ้น หากหยุดกระทันหันอาจทำให้กล้ามเนื้อตกเลือดได้ เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจน้อยลง และเสี่ยงต่อการเป็นลมและเป็นลม ทางที่ดีควรเลิกช้าๆ ช้าๆ เดินช้าๆ 2-10 นาที ค่อยๆ วอร์มดาวน์ (warm down) คนที่ไม่แข็งแรงควรใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อยในการทำให้สว่างขึ้น
อย่าลืมว่าการเดินหรือวิ่งให้ได้ผลเต็มที่จะต้องทำตั้งแต่ 40 นาทีขึ้นไป
เครดิต:healthcorners.com
#เดนวงบนสายพาน #เหวยงแขนไดประโยชนกวา